ความรู้พื้นฐาน Blockchain Technology

สรุปความรู้พื้นฐาน Blockchain Technology สั้นๆให้ทำให้เข้าใจภาพรวมของ Blockchain มากยิ่งขึ้น โพสไว้ให้ตัวเองมาอ่านเพราะเราลงทุนใน Crypto Currency แล้วเราจะ GO TO DA MOON!!

ความรู้เบี้องต้นเกี่ยวกับ Blockchain

ความหมายของ Blockchain

Blockchain คือ เทคโนโลยีที่ปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูล และสามารถใช้งานร่วมกันได้บนระบบ หากจะมีการบันทึกหรือปรับปรุงข้อมูล จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากสมาชิกในเครือข่ายก่อนจึงจะปรับข้อมูลได้

นิยามด้านเทคนิคของ Blockchain

การจัดเก็บข้อมูลลง Block และถูกเชื่อมกันด้วยโซ่ Chain ที่สร้างขึ้นกระจายข้อมูลเก็บไว้ในชิ้นส่วนของโซ่ที่ต่อกัน โดยข้อมูลไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยจัดเก็บแบบ Shared Database (Distributed Ledger Technology หรือ DLT) จัดเก็บในรูปแบบ Cryptography สามารถจัดการบริหารข้อมูล ระหว่างผู้ใช้งานในเครือข่ายได้ โดยต้องได้ฉันทามติ Consensus ก่อนปรับปรุงข้อมูล ทำให้การจัดเก็บข้อมูลด้วย Blockchain มีความน่าเชื่อถือ โปร่งใส และ เป็นการกระจายอำนาจ

วิวัฒนาการของ Blockchain

เริ่มต้นเกิดขึ้นจากแนวคิดการสร้าง Digital Currency เรียกว่า Bitcoin โดย Satoshi Nakamoto ปี 2008 โดยใช้ทฤษฎีเกี่ยวกับ Cryptography และ Distributed Computing ต่อมามีการพัฒนาเป็น Blockchain 1.0, 2.0 และ 3.0

• ยุค Blockchain 1.0 จุดเริ่มต้นพัฒนาระบบเป็นสกุลแบบเสมือน ใช้แทนสกุลเงินได้จริง
• ยุค Blockchain 2.0 การใช้รูปแบบ Smart Contract กำหนดขั้นตอนการทำธุรกรรมล่วงหน้า ไม่ต้องใช้ตัวกลาง อย่างเช่น ธนาคาร สถาบันการเงิน
• ยุค Blockchain 3.0 พัฒนาแนวคิดการกระจายศูนย์ กำหนด Smart Contract ภายในกลุ่มกันเอง จึงไม่ต้องมีพนักงานทำธุรกรรมให้

คุณลักษณะทั่วไปของ Blockchain

จัดเก็บเป็น Block คือข้อมูลเป็นชิ้นๆและต่อกันเป็นสาย Chain มี Timeline ทำให้ไม่สามารถย้อนกลับได้ เมื่อนำไปใช้แล้ว แต่ละ Block จะได้รับการประทับเวลาที่แน่นอนในห่วงโซ่ Chain

ทำให้เกิด

1. Data Integrity ข้อมูลเที่ยงตรง
2. Data Transparency ข้อมูลโปร่งใส
3. Availability ทำงานได้ต่อเนื่อง

คุณลักษณะเฉพาะของ Blockchain

1. Decentralized แบบ Peer to Peer กระจายศุนย์
2. Distributed Ledger โครงสร้างข้อมูลประมวลผลแยกประเภท
3. Immutable คือข้อมูลเปลี่ยงแปลงไม่ได้ในภายหลัง
4. Consensus ต้องมี Protocol Consensus ข้อมูลแต่ละ Node มีความสอดคล้องกัน
5. Openness เปิดให้ทุกคนเข้าถึง
6. Anonymity ข้อมูลจะไม่ระบุตัวตน รักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน

Blockchain Architecture

มี 4 Components คือ

1. Block เก็บข้อมูล
2. Chain ข้อมูลเชื่อมกันเป็นโซ่
3. Consensus มีกลไลควบคุมความถูกต้อง
4. Validation มี Proof of work

ส่วนประกอบของ Network Blockchain

1. Node
2. Lightweight Node
3. Ledger แบ่งเป็น Public, Distributed และ Decentralized Ledger
4. Wallet แบ่งเป็น Hot และ Cold Wallet
5. Nonce ตัวเลขที่ใช้ครั้งเดียวลงใน Block ที่ Hash
6. Hash

Network Blockchain Architecture

เป็นลักษณะการทำงานบน Layer เริ่มจากต่ำสุดคือ

1. Network ผ่าน Internet ICP/IP
2. P2P เป็น Routing และ Folding Protocol
3. Cryptography
4. Consensus
5. Execution คือ Contract
6. Applications คือ DAO และ Autonomous Agents

โดยทำงานเชื่อมต่อกัน จาก 1-6

การทำงานของ Blockchain

1. Create สร้างข้อมูลหรือธุรกรรม
2. Process and Broadcast
3. Validate
4. Add to Chain
5. Complete

ขณะที่ธุรกรรมเกิดขึ้นบน Blockchain จะมี Node ตรวจสอบบนเครือข่าย Node เหล่านี้เรียกว่า Minor ผู้ขุด หรือ ยกตัวอย่างง่ายๆ คือเหมือง Bitcoin (ตามที่ภาษาคนทั่วไปเรียกกัน) เพื่อให้ธุรกรรมปลอดภัยและถูกต้องก่อนนำธุรกรรมเข้าสู่ Blockchain

ประเภทของ Blockchain

1. Public Blockchain ทุกคนเข้าถึงได้
2. Private Blockchain ส่วนตัวใช้ในรูปแปปกรณีขององค์กร ระหว่างองค์กร
3. Consortium Blockchain เปิดให้ใช้เฉพาะกลุ่มเท่านั้น

ข้อดีของ Blockchain

1. ทำธุรกรรมซ้ำได้ดี
2. มี Trust
3. มี Security
4. มี Efficiency

ข้อเสียของ Blockchain

1. ต้องการ 3rd Party ในการตรวจสอบ กระบวนการซับซ้อนขึ้น

แนวทางการประยุกต์ใช้ Blockchain

1. การโอนเงิน
2. แลกเปลี่ยนทางการเงิน
3. การให้ยืม
4. ประกันภัย
5. อสังหาริมทรัพย์
6. รักษาความปลอดภัยส่วนบุคคล
7. โหวต
8. โครงการของรัฐ ลดการโกง
9. แบ่งปันข้อมูลทางการแพทย์อย่างปลอดภัย
10. ค่าลิขสิทธิ์
11. สร้างโทเค็น NFT
12. การติดตามขนส่ง
13. IoT
14. เก็บข้อมูลแบบไม่รวมศูนย์

สรุป

สำหรับเทคโนโลยี Blockchain มีประโยชน์มาก หากนำ Technology ไปใช้อย่างถูกต้อง และไม่ได้ไปโกงใคร

สำหรับสายลงทุน ใครยังไม่ได้ลงทุน ตอนนี้ยังไม่สาย ควรลงทุนไว้ เพราะอนาคตอาจจะรุ่งไปดวงจันทร์ไปดาวอังคารกัน แต่ Blockchain Technology ไม่มีหลอก เราสามารถศึกษาได้ ยิ่งรู้ยิ่งมั่นใจ ยิ่งลงทุนได้และออกจากเกมเมื่อเราเห็นว่ามันไม่ใช่อนาคต ต้องจัดการความเสี่ยงไว้ด้วย สุดท้ายนำ Quote จากอาจารย์ตั้มมาดังกล่าวไว้ว่า

เวลามีค่าศึกษา Bitcoin